วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ความกลัว

ความกลัวเกิดจาก เผลอหลงจมอารมณ์โลก จมสังขาร
มีตัวมีตน หลงว่ายวนอยู่ในกระแสของความคิดนึก
เมื่อมีรัก หวง ห่วง ชัง และความกลัว อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งหมด

จะพิชิตความกลัว จงอย่าเมามัวเพลิดเพลินอยู่กับอารมณ์โลก
ความบันเทิงเริงใจล้วนเป็นเหตุให้อาลัย ห่วงหา ตั้งกติกาเสริมตน

จงกลับมามีสติ อยู่กับปัจจุบัน รู้ทันอารมณ์ตามความเป็นจริง
เป็นกลาง ไม่ยึดมั่น อดีตกับอนาคตเป็นผลมาจากความหลงคำนึง

แค่เลิกหลง มีสติ ทุกอย่างก็จบแล้ว จบที่ใจ

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

กฎแห่งกรรม

ถ้าบุคคลรู้ซึ้งถึงเรื่องกฎแห่งกรรมอย่างแท้จริงแล้ว
การตีโพยตีพาย กล่าวโทษผู้อื่นหรือสิ่งอื่นว่า
เป็นเหตุให้ตนต้องเสื่อมเสียเศร้าหมองเดือดร้อนใจ ก็จะไม่มีอีก

เพราะบุคคลหว่านพืชเช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้นเองเป็นธรรมดา
สิ่งที่เขาจะกระทำต่อไปคือ ตั้งมั่นอยู่บนหนทางที่ถูกที่ควร
ที่จะไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจในภายหลังอีกนั่นเอง

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อย่าหลงในความคิด

เพราะความคิดเป็นของชั่วคราว เกิดแล้วก็ดับ
เพราะความรู้ไม่เท่าทัน หลงยึดมั่นถือมั่น
ทำให้หลงจมลงไปในห้วงน้ำของความคิดนึก
ดุจมหาสมุทร ที่มองไม่เห็นฝั่ง
จงขึ้นจากน้ำ จงถึงฝั่ง
จงหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดนั้นเทอญ


ความหลงใหล

ความหลงใหลเป็นเหตุให้เศร้าหมอง
เป็นมลทิน ก่ออัตตา ก่อทุกข์ก่อโทษ
ความหลงใหลทำให้ยินดีเมื่อได้ดังใจ
เป็นทุกข์ คับแค้น เสียใจ เมื่อผิดหวัง

รู้เท่าทันทุกข์โทษภัยของความหลงใหลกันเสียเถิด
ความหลงใหลกับความพอใจก็ตัวเดียวกันนั่นเอง
เพราะเหตุแห่งความพอใจ วิญญาณจึงมีที่ตั้งอาศัยอยู่ได้
เพราะวิญญาณมี ภพชาติจึงมี มันจึงไม่จบง่าย ๆ

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ไม่ใช่เรา แม้เราก็ไม่มี

ปล่อยแล้วพอใจ ก็ยึดต่อ
รู้ทันความพอใจ ก็เลิกยึด
ว่างจากความยึดก็รู้ ไม่ว่างก็รู้
รู้ธรรมชาติทั้งสองตามที่มันเป็น
ไม่ได้เอาหรือไม่เอาอะไรกับมัน เพราะรู้ทุกข์
แต่ถ้าหลงเป็นเราจะเอาอีกก็รู้ไป มีสติขันติซื่อตรง
รู้บ้างหลงบ้าง ความยึดมั่นถือมั่นมันอยู่ห่าง ๆ
เดี๋ยวมาเดี๋ยวไป ไม่ใช่เรา แม้เราก็ไม่มี
สุดท้ายอย่าไปหมกมุ่นไม่ว่าอะไรก็ตาม
ก้าวข้ามสมมุติมายา ก้าวข้ามโลกไปให้ได้


วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ปฏิบัติธรรม


เริ่มต้นต้องรู้ตัว จิตขุ่นมั่วอย่าค้นตาม
ใจสงบจึงค่อยยาม ตามคำนึงถึงทั้งปวง

อัตตามาหลอกล่อ ให้หลงหล่อและภาพลวง
ฟาดฟันด่าวดิ้นทรวง กลับไม่ล่วงห่วงมายา

ใจสงัดค่อยชัดแจ้ง เหตุขัดแย้งแกล้งให้หา
เพราะมีอวิชชา ก่อตัณหาทุกข์ลำเค็ญ

มีสติขันติมั่น รู้เท่าทันปัญญาเห็น
เกิดดับเช่นนั้นเอง สิ้นทุกข์เข็ญ เป็นนิพพาน

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

บล็อกเก่าเอามาเล่าใหม่


ต้องตัดสินใจลบบทความเก่าทิ้งไปทั้งหมด 
แล้วเริ่มต้นเขียนขึ้นใหม่แทนเฉพาะบางหัวข้อเท่านั้น
เอาเท่าที่พอจะเป็นประโยชน์ เป็นแก่นสาร นำมาบอกกล่าวต่อกันได้ 
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้อ่านมีความเข้าใจอย่างถูกตรงที่สุด
กระชับ รัดกุม ตัดส่วนเกิน เฝือ ฟุ้งซ่านออกไป

ด้วยเห็นว่า บทความทางธรรมที่ดี เขียนแล้วควรน้อมนำให้
ผู้อ่านเกิดความสงบสงัดห่างไกลจากกิเลส
เกิดปัญญา เห็นตามความเป็นจริง เป็นสัมมาทิฏฐิมากกว่าสิ่งอื่น
ที่ผ่านมาการเขียนของผู้เขียนนั้นถือว่ายังไม่ชัดเจนพอ 
ต้องขออภัยและขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้ด้วย

อนึ่ง สิ่งที่จะเขียนต่อจากนี้ไป อาจไม่ใช่บทความ
อาจจะเขียนเป็นเพียงประโยคสั้น ๆ ไม่กี่คำ 
แต่หากผู้อ่านเกิดความสงสัย มีคำถาม 
ผู้เขียนก็ยินดีและพร้อมที่จะตอบคำถามเหล่านั้น
ตามความเข้าใจที่มีต่อไป



เจริญในบทธรรมตามเห็นสมควรนั้นเทอญ









วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สมถะ วิปัสสนา


สมถะ ช่วยถากถางทางให้มันโล่งเตียน เดินไปมาได้ง่าย
ส่วนวิปัสสนา ช่วยให้เดินตรง เดินถูกทาง ถึงที่หมายได้

ว่าง ไม่ว่าง


ทีแรกก็ว่างอยู่ แต่พอหวั่นไหว
ยินดียินร้ายแล้ว ก็ไม่ว่าง
ว่างก็เป็นทุกข์ ไม่ว่างก็เป็นทุกข์
หากขาดปัญญาพิจารณา
หลงยึดมั่นถือมั่นอันใด
ก็เป็นทุกข์ทั้งคู่ไม่ต่างกัน


จิตว่างคืออะไร

จิตว่างคือว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวเป็นตนก็พอ
แม้แต่ตัวจิตเองจะมีอยู่หรือไม่มีก็ตาม ก็ไม่ได้สำคัญมั่นหมาย
ในความมีความเป็นหรือความไม่มีไม่เป็นแต่อย่างใดอีก 
เมื่อถอนความยึดมั่นถือมั่นได้แล้วก็ไม่ได้ไปเป็นหรือไม่เป็นอะไรอีก 
พ้นบัญญัติ พ้นอุปาทานการหลงสังขารทั้งปวง

หน้าเว็บ